top of page
Image-empty-state.png

เราจำเป็นต้องสครับผิวหน้ากันหรือเปล่า ?

เราจำเป็นต้องสครับผิวหน้ากันหรือเปล่า ?

วันศุกร์ที่ 26 มิถุนายน 2563

อีกหนึ่งวิธีบำรุงผิวที่เราได้ยินบ่อยๆ ก็คือ “การสครับผิว” ซึ่งก็จะมีทั้งเสียงที่บอกว่าควรสครับเยอะๆ ผิวจะได้สวยๆ ขาวๆ แต่บางเสียงก็บอกว่าอย่าสครับเลย เดี๋ยวผิวจะระคายเคือง เกิดเป็นผื่นแดงๆ ขึ้นเต็มหน้า ไม่สวยเอานะ

เราสครับผิวไปเพื่ออะไร
สิ่งที่เรียกว่า “สครับ” เกิดขึ้นมาเพราะเพื่อช่วยผลัดเซลล์ผิวหมดอายุ หรือเซลล์ผิวเก่าๆ ให้หลุดออกไป แล้วให้เซลล์ผิวที่ใหม่กว่า สวยกว่า ขาวกว่า เผยออกมา และการสครับผิวยังช่วยขจัดสิ่งสกปรก คราบมันที่อุดตันตามรูขุมขนให้ออกมาได้ด้วย ถ้าใครอยากเพิ่มดีกรีความสะอาดให้กับผิว การสครับผิวก็ช่วยได้ค่ะ แต่ตามปกติแล้วผิวคนเราจะผลัดออกเองตามธรรมชาติอยู่แล้วประมาณ 28-30 วัน แต่ด้วยปัจจัยอะไรหลายๆ อย่าง ก็อาจจะทำให้ผิวเราผลัดออกช้า สวยไม่ทันใจ สวยไม่สุด การสครับผิวเลยเป็นทางออกหนึ่ง ที่จะทำให้ผิวเราสวยขึ้นได้แบบสังเกตเห็นได้ชัด

คำตอบก็คือ มีทั้ง “จำเป็น” และ “ไม่จำเป็น” ไม่ได้เป็นกฎตายตัว ถ้าเราไม่สครับเลยก็มีข้อดีตรงที่ว่า ไม่เป็นการรบกวนผิวให้ผิวง่ายต่อการระคายเคือง และไม่ทำร้ายเกราะป้องกันผิวตามธรรมชาติให้อ่อนแอลงด้วย (การสครับผิวหรือขัดผิวบ่อยๆ ทำให้ผิวอ่อนแอลงได้นะ) แต่ถ้าอยากจะสครับก็ไม่ว่ากันค่ะ แต่ควรทำแบบพอดี ไม่ถี่เกินไป โดปกติแล้ว สัปดาห์หนึ่งไม่ควร 1-2 ครั้งค่ะ และนอกจากนี้ยังมีข้อควรระวังอื่นๆ อีกเช่น

• สำหรับคนที่ผิวแห้ง หรือระคายเคืองง่าย ควรเลือกผลิตภัณฑ์สครับผิวเม็ดเล็ก อย่าเลือกเม็ดหยาบ เพราะอาจทำให้ผิวเราระคายเคืองได้ง่ายค่ะ
• ควรเลือกผลิตภัณฑ์สำหรับสครับผิวให้เหมาะกับสภาพผิวเรา
• ไม่ควรสครับผิวบ่อยเกินไป
• ควรระวังการใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับสครับผิวที่มีส่วนผสมเป็นกรดต่างๆ เช่น Glycolic acid ที่เหมาะกับคนมีสิวนั้น ควรสครับไม่เกินสัปดาห์ละครั้งค่ะ เพราะผิวอาจบอบบางลงได้

สรุปก็คือ เรื่องของการสครับผิวเนี่ย เราจะทำหรือไม่ทำก็ได้ หากเรารู้สึกว่าผิวเราดูหมองๆ ไม่กระจ่างใส การสครับผิวก็เป็นทางออกอีกทางหนึ่งที่ช่วยได้ แต่ต้องอย่าลืมว่า อย่าสครับผิวบ่อยเกินไปนะคะ เพราะเดี๋ยวผิวจะอ่อนแอ และเกิดการระคายเคืองได้

นพ.ภัทร วรวุทธินนท์

bottom of page