5 ประโยชน์ของการฉีดโบท็อกซ์
5 ประโยชน์ของการฉีดโบท็อกซ์
วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤษภาคม 2563
หากพูดถึงวิธีการทำหน้าเด็ก ลดรอยตีนกา ลดเลือนริ้วรอยต่างๆ หรือทำหน้าให้เรียวเล็กแบบทันใจแล้วล่ะก็ สาวๆ คงตอบเป็นเสียงเดียวว่าให้ไปฉีด “โบท็อกซ์”
โดย โบท็อกซ์ เป็นชื่อทางการค้าของ ‘โบทูลินัม ท็อกซิน เอ’ (Botulinum toxin A) สารสกัดจากโปรตีนชนิดหนึ่งของแบคทีเรียคลอสตริเดียม โบทูลินัม เป็นนวัตกรรมลดริ้วรอยและปรับรูปหน้าที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ซึ่งโบท็อกซ์นี้ก็มีหลากหลายยี่ห้อ จากหลายประเทศ แต่ที่รู้จักกันดีก็คงจะหนีไม่พ้นโบท็อกซ์ ‘Dysport’ จากประเทศอังกฤษ และ ‘Neuronox’ จากประเทศเกาหลี
อย่างไรก็ตาม เจ้าโบท็อกซ์นี้ไม่ได้มีดีแค่ช่วยเสริมความงามให้กับเราเท่านั้น แต่ยังมีคุณสมบัติอื่นๆ อีกมาก ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้นวันนี้ฟิออร่า คลินิก จะพามาดูกันค่ะ ตามมาเลย
1.ลดเหงื่อลดกลิ่นตัว
ปัญหากลิ่นตัวและเหงื่อออกมาก คงเป็นปัญหาไม่น้อยสำหรับใครหลายๆ คนเพราะอาจทำให้เสียความมั่นใจได้ ซึ่งในปัจจุบันก็มีการใช้โบท็อกซ์เข้ามาตอบโจทย์ในส่วนนี้ โดยโบท็อกซ์เมื่อฉีดเข้าไป จะไปช่วยยับยั้งเส้นประสาทที่เลี้ยงต่อมเหงื่อ จึงทำให้ต่อมเหงื่อนั้นผลิตเหงื่อน้อยลง เหงื่อออกน้อยกว่าปกติ ซึ่งได้ผลมากกว่าผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย สำหรับการฉีดนั้น จะฉีดบริเวณชั้นใต้ผิวหนังบริเวณรักแร้ ใช้เข็มฉีดขนาดเล็กและใช้สารโบท็อกซ์ในปริมาณไม่มาก สามารถผลลัพธ์ได้ตั้งแต่ 1-3 วันแรกๆ ของการทำ
2.รักษาอาการหนังตากระตุก
อาการหนังตากระตุกโดยส่วนมากจะเกิดขึ้นที่บริเวณเปลือกตาบนและล่าง โดยในแต่ละครั้งอาจมีอาการกระตุกเพียงสั้นๆ แล้วหายไป หรืออาจยาวต่อเนื่องเป็นพักๆ แม้จะไม่ใช่อาการที่อันตรายหรือสร้างความเจ็บปวดอะไร แต่ก็ทำให้เราเกิดความรำคาญได้ไม่น้อย ซึ่งเมื่อเราฉีดโบท็อกซ์ ก็จะช่วยยับยั้งอาการหนังตากระตุกไปได้ราว 2-3 เดือน
3.บรรเทาอาการเจ็บจากข้อเข่าเสื่อม
อายุมากขึ้น แน่นอนว่าร่างกายก็เสื่อมสภาพลงใช่ไหมล่ะคะ บางคนอาจมีอาการข้อเข่าเสื่อมถามหา ซึ่งโบท็อกซ์สามารถช่วยจัดการอาการเจ็บเหล่านี้ได้ รวมถึงช่วยป้องกันอาการโรคข้อเข่าเสื่อมเรื้อรังได้อีกด้วย
4.รักษาโรคไมเกรน
หากคุณมีอาการปวดตุ๊บๆ ที่ศีรษะข้างใดข้างหนึ่ง รวมถึงมีอาการคลื่นไส้อาเจียน มีความรู้สึกไวต่อแสงและเสียง ไม่แน่ใจว่าคุณอาจกำลังประสบอยู่กับโรคไมเกรนอยู่ก็ได้ โดยไมเกรนนั้นเกิดจากการตึงตัวของกล้ามเนื้อบริเวณบ่าและคอ ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอจนเกิดอาการในข้างต้นขึ้น ซึ่งโบท็อกซ์ เมื่อฉีดเข้าไปจะช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว ลดอาการตึง เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้นอีกด้วย อย่างไรก็ตามการฉีดโบท็อกซ์เพื่อรักษาไมเกรนควรจะต้องฉีดทุกๆ 3 เดือน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต่อเนื่องนั่นเอง
5.อาการเกร็งของกล้ามเนื้อ
ทางการแพทย์ โบท็อกซ์ สามารถช่วยหยุดอาการมือเกร็งบิด มือสั่นเวลายกจับสิ่งของ ตลอดจนอาการเคลื่อนไหวผิดปกติได้ เพราะโบท็อกซ์นั้นเป็นสารที่มีผลทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือคลายตัวลง โดยเข้าไปออกฤทธิ์ลดการหลั่งอะซีติลโคลีน (Acetyl Choline) หรือสารสื่อประสาท (Neurotransmitters) ที่ทำหน้าที่ออกคำสั่งกับเซลล์กล้ามเนื้อของร่ายกาย
เห็นกันไปแล้วว่าโบท็อกซ์นั้นมีดีกว่าแค่การช่วยปรับรูปหน้า ให้หน้าเต่งตึง ดูอ่อนเยาว์ลง หากใครสนใจอยากฉีดโบท็อกซ์ไม่ว่าจะเพื่อเสริมความงามหรืออื่นๆ สามารถมาขอคำปรึกษาและใช้บริการที่ฟิออร่า คลินิกกันได้นะคะ รับรองเลยว่าสวยแน่ แถมปลอดภัย เพราะทุกขั้นตอนอยู่ในความดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
นพ.ภัทร วรวุทธินนท์