เครื่อง VBeam Laser
แสงเลเซอร์จะส่งความร้อนลงไปยังชั้นผิวหนังแท้ ทำให้เส้นเลือดผิดปกติใต้ผิวหนังถูกทำลายหายไป เกิดการจัดเรียงตัวของเส้นเลือดใต้ผิวหนังใหม่
ทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่
เลเซอร์ Vbeam เป็นเทคโนโลยีที่มีความปลอดภัยสูง สามารถใช้ได้แม้กระทั่งกับผิวทารก ให้ผลการรักษาครอบคลุมเกือบทุกปัญหาของผิวหนังโดยไม่มีผลข้างเคียง อีกทั้งยังได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของประเทศสหรัฐอเมริกา รวมทั้งของประเทศไทยด้วย
เครื่องMedlite C6 Laser New Generation
เป็นเลเซอร์รุ่นล่าสุดช่วยในการแก้ปัญหาฝ้า กระ สีผิวไม่เรียบต่าง ๆ ที่เป็นปัญหาที่พบได้มากทั้งในคุณผู้หญิงและคุณผู้ชาย รวมถึงเทคโนโลยีการยิงเลเซอร์แบบใหม่ที่ไม่เกิดแผลหลังการรักษา ซึ่งจะทำให้ผิวหน้าของคุณดูดีขึ้นอย่างชัดเจนภายหลังการรักษา นอกจากนั้นแล้วยังสามารถใช้รักษาผิวตรงส่วนอื่น ๆ ที่อาจเกิดจากแผลผ่าตัด แผลอุบัติเหตุ รอยสัก ได้อีกด้วย
Medlite C6 ช่วยแก้ปัญหากระตื้น (Freckle) กระแดด (Solar lentigene) กระลึก (Freckle Of Hori)
-
ปานดำต่าง ๆ เช่น Café-au-Lait macule, Nevus Of Ota, Becker’s Nevus etc.
-
รอยสักสีต่าง ๆ ได้ทุกส่วนของผิวหนังในร่างกาย
-
รอยแผลเป็น จากสิว รอยแผลจากการเกิดแผล หรือแผลผ่าตัด
-
ช่วยปรับสภาพสีผิวให้ขาวเรียบเนียน และ รูขุมขน กระชับมากขึ้น โดยผลการรักษาจะชัดเจนมากขึ้นทุกครั้งหลังจากได้รับการรักษา
เครื่อง elos Plus - eMatrix
eMatrix เป็นนวัตกรรม Fractional ใหม่ล่าสุด ที่ใช้ RF (Radio Frequency) ในการรักษา โดยมีเทคนิคเฉพาะที่เรียกว่า SelectPulseTM เพื่อทำให้เกิดผล Ablation and Resurfacing ทำได้โดยการปล่อย RF ไปตาม Pin ของหัว ที่มีขนาด 8×8 แถว โดยใช้เทคนิคเฉพาะที่เรียกว่า SelectPulseTM
สามารถใช้รักษา
-
หลุมสิว
-
หน้าดำ รอยหมองคล้ำ
-
ริ้วรอย
-
กระชับรูขุมขน
-
ความผิดปกติของเม็ดสี
-
ผิวไม่เรียบเนียน
-
ผิวหย่อนคล้อย
eMatrix เป็นเครื่องมือที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (US FDA) ว่ามีความปลอดภัย และได้ผลจริง หลังการรักษาอาจเกิดอาการบวม แดง เจ็บเล็กน้อย อาจมีตุ่มน้ำหรือสะเก็ดหลังทำ อาจมีการเปลี่ยนแปลงของเม็ดสีผิดปกติ (เกิดขึ้นได้น้อย)
เครื่อง Fotona 4D
เป็นการผสมผสานการทำงานของคลื่นพลังงานพลังงานสองคลื่น คือ Fotona ND Yag และ Fotona Er Yag ในรูปแบบ 4D ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอีลาสติน ทั้งในระดับลึกและตื้น ทั้งด้านในและด้านนอก จัดว่าเป็นการพลิกโฉมการรักษาครั้งแรก ที่ช่วยให้ประสิทธิภาพในการรักษาดีขึ้น
จุดเด่นของการทำ
-
ยกกระชับใบหน้า แก้ม กรอบหน้า
-
ผิวหน้ากระจ่างใส เรียบเนียน ลดริ้วรอยทั่วใบหน้า
-
ลดร่องแก้ม ร่องมุมปาก ร่องใต้ตา โดยไม่ต้องฉีดฟิลเลอร์
-
ช่วยปรับผิวหน้าให้เรียบเนียน กระจ่างใส
-
เติมเต็มริมฝีปากให้อิ่มสวย และเรียบเนียนโดยไม่ต้องฉีดฟิลเลอร์
เครื่อง Sygma Lift
สำหรับท่านที่มีปัญหาคาง 2 ชั้น หรือมีเหนียงใต้คาง แก้มหย่อนคล้อย ผิวใต้กรามไม่กระชับ ทำให้รู้สึกขาดความมั่นใจ หากคุณกำลังมองหาเทคโนโลยีที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพสูงที่จะช่วยปรับรูปหน้าให้กลับมายกกระชับ เหนียงใต้คางหายไป โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีบาดแผล และไม่เจ็บ ปัจจุบันมีนวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่สามารถตอบโจทย์ ก็คือ “ซิกมาลิฟท์ (Sygma Lift)” ซึ่งเป็นการผสาน 3 เทคโนโลยีในการรักษาหนึ่งเดียวที่ให้ผลการรักษาหลายประการดังนี้
-
HIFU Lines สามารถช่วยลดชั้นไขมันใต้คาง, แก้มที่หย่อนคล้อย
-
Tri – Focal Ultrasound ใช้สำหรับลดเลือนริ้วรอยรอบดวงตา ริ้วรอยหน้าผาก ริ้วรอยรอบปาก ยกคิ้ว แก้ปัญหาหางตาตก
-
Low Level Laser Therapy (LLLT) หรือ Cold Laser ช่วยเพิ่มการแลกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจนในระดับเซลล์ เร่งกระบวนการซ่อมสร้างเซลล์ผิวใหม่ ช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใสขึ้น
SygmaLift เป็น Liner High Focusing Ultrasound ที่ใช้ นวัตกรรม Fractionated Beam Technology ปล่อยพลังงานคลื่นอัลตร้าซาวน์ความเข้มข้นสูง 1000 ครั้ง/วินาที ทำให้ผู้เข้ารับการรักษาไม่รู้สึกเจ็บ ใช้รักษาริ้วรอย ยกคิ้ว ลดชั้นไขมันใต้คาง และยกกระชับผิวหน้า
Vela Shape III
ใช้เทคโนโลยีร่วมกัน ระหว่างการทำงานของแสงอินฟาเรด (IR) คลื่นวิทยุความถี่สูงแบบ 2 ขั้ว (Bi-Polar RF) แรงดูดสุญญากาศ (Vacuum) และ ตัวนวดผิว (Tissue Manipulation) โดยจะมีการสะสมความร้อนใต้ผิวหนังให้อุณหภูมิถึงจุดที่เห็นผลที่ต้องการรักษาได้อย่างรวดเร็ว มีผลการทำลายเซลล์ไขมัน ผู้รับบริการจะได้รับความรู้สึกคล้ายถูกนวดและอุ่นๆที่ผิวหนัง และอาจจะรู้สึกรู้สึกอุ่นๆใต้ผิวหนังจากการรักษาต่อเนื่องประมาณ 30 นาที – 1 ชั่วโมง เนื่องจากจะมีการเผาผลาญไขมันอย่างต่อเนื่อง สามารถทำได้ทุกสีผิว ไม่มีผลข้างเคียงทั้งระยะสั้น และ ระยะยาวเหมาะสำหรับผู้ที่ได้ทำการดูดไขมัน หรือ ผู้ที่มีปัญหาไขมันส่วนเกินหลังคลอด
ผลลัพธ์ที่ได้
-
ช่วยเผาผลาญไขมัน ไขมันส่วนเกินลดลง ลดเซลลูไลท์
-
ผิวกระชับ เนียนเรียบ
-
ลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
-
เพิ่มการไหลเวียนเลือด ส่งผลให้ผิวสุขภาพดีขึ้น
เลเซอร์ชนิดคาร์บอนไดออกไซด์
เลเซอร์ คือ เครื่องมือที่นำแสงความยาวคลื่นเดียว มาทำให้ลำแสงขนานกัน และเพิ่มพลังงานให้สูงพอที่จะมาใช้รักษาโรคผิวหนังได้ เลเซอร์ (LASER) เป็นตัวย่อมาจากคำว่า Light Amplification by Stimulated Emission of Radiation
เลเซอร์ชนิดคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2 Laser) เป็นการนำก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มาเป็นตัวกลางในการทำให้เกิดแสงเลเซอร์ ที่มีความยาวคลื่น 10,600 nm ซึ่งมีคุณสมบัติในการดูดน้ำที่ผิวหนังได้ดี จึงถูกนำมาใช้ในการรักษาโรคต่าง ๆ
โรคหรือปัญหาที่เหมาะสมที่จะรับการรักษาด้วยเลเซอร์ชนิดคาร์บอนไดออกไซด์ ได้แก่ หูด ติ่งเนื้อ กระ กระเนื้อ ไฝ ขี้แมลงวัน ต่อมไขมันโต เนื้องอกของท่อของต่อมเหงื่อ (syringoma) รอยแผลเป็นที่เกิดจากการผ่าตัด และหลุมสิว เป็นต้น
ก่อนรับการรักษาด้วยเลเซอร์ชนิดคาร์บอนไดออกไซด์
จะต้องทำให้บริเวณที่จะรับการรักษาชา ซึ่งทำได้ 2 วิธี คือใช้ยาชาแบบแปะ กับฉีดยาชา ซึ่งมีความต่างกันตรงที่ถ้าใช้ยาชาแบบแปะจะต้องรอให้ยาชาออกฤทธิ์ประมาณ 45 นาที ถึงจะเริ่มรับการรักษาได้ แต่ถ้าฉีดยาชา ก็รับการรักษาได้ทันทีหลังฉีด ขณะที่ยิงเลเซอร์ผู้ป่วยก็จะไม่มีความรู้สึกเจ็บ หลังจากนั้นก็จะมีการทายาเพื่อป้องกันไม่ให้แผลติดเชื้อแบคทีเรีย และปิดลาสเตอร์กันน้ำ
การดูแลแผลหลังรับการรักษา
- ห้ามโดนน้ำ โดยเฉพาะใน 24 ชั่วโมงแรก ถ้าต้องล้างหน้า ควรล้างหน้าเบา
- ควรปิดลาสเตอร์กันน้ำไว้ 7 วัน แผลจะหายได้ดีโดยไม่ต้องเป็นแผลตกสะเก็ด
- ถ้าพลาสเตอร์หลุดก่อน 7 วัน ให้ล้างด้วยน้ำเกลือ ทายาป้องกันติดเชื้อแบคทีเรีย และปิดพลาสเตอร์กันน้ำใหม่
- หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดด 2 – 4 สัปดาห์ เพื่อป้องกันโอกาสการเกิดรอยดำ
- มาพบแพทย์ตามนัด หลังทำ 7 วัน หรือถ้ามีปัญหา ก็ให้มาพบก่อนนัดได้